ภาคเกษตรไทยได้อะไรจากกลุ่ม"ซีแอลเอ็มวี"

มหาวิทยาลัยสุพานุวงถือได้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่และเป็นหลักที่สำคัญทางลาวเหนือ และสาขาวิชาทางด้านการเกษตรก็ถือว่าเป็นคณะที่มีความสำคัญและได้รับความนิยมในการศึกษาพอควร โดยส่วนใหญ่นักศึกษาจะเป็นคนในเขตลาวเหนือและมีคนในเขตอื่นทั้งกลางและใต้เข้ามาเรียนด้วยเป็นส่วนน้อย



คณบดีคณะเกษตรศาสตร์-ทรัพยากรป่าไม้ ดร.วงประสิทธิ์ จันทคุณ และอาจารย์วิรชัย บันดาวง ซึ่งได้ฉายภาพของการเกษตรในเขตลาวเหนือให้เราฟังว่าพื้นที่ลาวเหนือส่วนใหญ่จะเป็นที่สูงที่เป็นเขาและป่าไม้เป็นส่วนใหญ่ พื้นที่โดยรวมมีความอุดมสมบูรณ์ มีแหล่งน้ำธรรมชาติและอ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นสำหรับรองรับการเกษตร ในใจกลางของตัวเมืองหลวงพระบางจะเป็นพื้นที่ เป็นมรดกโลก จึงเน้นไว้สำหรับการท่องเที่ยวเป็นหลัก

ส่วนพื้นที่การเกษตรที่อยู่รอบๆ ตัวเมืองก็จะเป็นพื้นที่การเกษตรระดับครัวเรือน ซึ่งมีพื้นที่ไม่มากนัก เน้นการปลูกผักเป็นหลักสำหรับการบริโภคและรองรับผู้บริโภคในพื้นที่ ร่วมกับการมีรีสอร์ทไว้บริการนักท่องเที่ยวซึ่งเริ่มเกิดมากขึ้น และถ้าเป็นพื้นที่ที่ห่างไกลออกไปก็จะมีการปลูกข้าว ส้มและยางพารา ส่วนสัตว์ที่เลี้ยงส่วนใหญ่เป็นวัว แพะ หมู และไก่ ซึ่งก็เป็นการผลิตเพื่อบริโภคในพื้นที่เป็นหลัก

สำหรับข้าวนั้นเป็นประเด็นที่ทีมวิจัยสนใจกันค่อนข้างมากก็คือ ข้าวไก่น้อย ท่านอาจารย์ยศได้เล่าให้ฟังว่า ข้าวไก่น้อยเป็นข้าวพื้นเมืองของลาว มีการปลูกกันมากในพื้นที่แถบนี้ เมล็ดสั้นๆ เล็กๆ ชื่อน่ารักๆ ได้ถูกนำมาทำเป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และได้รับความนิยมในการดื่มกันมากของคนลาว ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าคนลาวนี่มีปริมาณการดื่มเบียร์เฉลี่ยสูงมากต่อหนึ่งคน ถ้าเราเดินตลาดกันก็จะเห็นเครื่องดื่มประเภทเบียร์หลากหลายแบรนด์มากไม่เฉพาะแต่เบียร์ลาวเท่านั้น

ดังนั้น ถ้ามองเรื่องของศักยภาพด้านการเกษตรและอาหารของทางลาวเหนือเทียบกับทางลาวใต้แล้วนั้น ก็จะเห็นได้ว่าทางลาวเหนือมีการทำการเกษตรและผลผลิตที่ไม่มาก และการผลิตเฉพาะอย่างเพื่อตอบสนองการบริโภคภายในพื้นที่และรองรับนักท่องเที่ยว ส่วนในด้านเทคโนโลยีการผลิตทางการเกษตร ก็ยังเป็นการผลิตแบบดั้งเดิม เน้นภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นหลัก ร่วมกับการใช้ปุ๋ยและสารเคมี ซึ่งมีการใช้ตามความจำเป็นไม่ได้มีปริมาณมากมายอะไร

ขอบคุณที่มา: คมชัดลึก

ความคิดเห็น