เหง้าขมิ้นไทย ขายดีที่อเมริกา

รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเดือน ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA/APHIS) ประกาศเพิ่มเหง้าขมิ้นสดจากประเทศไทยลงในบัญชีรายการสินค้าที่สามารถนำเข้ายังสหรัฐอเมริกาได้ 



ซึ่งเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมาได้มีการนำเข้าเหง้าขมิ้นสดจากประเทศไทยลอตแรกแล้ว จากด่านนำเข้าสินค้า ณ นครลอสแอนเจลิส พร้อมตรวจปล่อยสินค้า จำนวน 79 กล่อง น้ำหนักกล่องละ 30 ปอนด์ รวมทั้งสิ้น 2,370 ปอนด์ คิดเป็นประมาณ 1,075 กิโลกรัม

นอกจากนี้ ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 ฝ่ายการเกษตรประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ได้เข้าพบผู้บริหารบริษัทนำเข้าเหง้าขมิ้น ในฐานะผู้นำเข้าสินค้าเกษตรไทยรายใหญ่ของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย และพบว่าสินค้าเหง้าขมิ้นจากประเทศไทยถูกจำหน่ายอย่างรวดเร็ว เหลือเพียง 5 กล่องเท่านั้น

โดยทางผู้บริหารเผยได้เตรียมแผนในการนำเข้าสินค้าดังกล่าวอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 100 กล่อง ประมาณ 1,360 กิโลกรัม หรือหากเป็นไปได้จะนำเข้าครั้งละ 1 ตู้คอนเทเนอร์ คือ 20 ตัน และในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมาได้มีการนำเข้าอีกครั้งหนึ่ง

ขมิ้นเป็นพืชล้มลุกอยู่ในวงศ์ขิง มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเหง้าอยู่ใต้ดิน เนื้อในของเหง้าเป็นสีเหลือง มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีสีเหลืองเข้ม จนสีแสดจัด ชอบแสงแดดจัดและมีความชื้นสูง ขึ้นได้ดีในดินร่วนซุยมีการระบายน้ำดี ไม่ชอบน้ำขัง ปลูกโดยใช้เหง้าหรือหัวอายุ 10-12 เดือนทำพันธุ์ ถ้าเป็นเหง้าอยู่ที่ความยาวประมาณ 8-12 ซม. หรือมีตา 6-7 ตา ปลูกลงแปลงกลบดินหนาประมาณ 5-10 ซม. ประมาณ 30-70 วันหลังปลูกจะงอกขึ้นมา ต้องรดน้ำทุกวันเช้าเย็น

เมื่อมีอายุ 9-10 เดือนหลังปลูกสามารถเก็บเกี่ยวได้ ควรปลูกในช่วงต้นฤดูฝนประมาณปลายเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม ในช่วงฤดูหนาวหรือประมาณปลายเดือนธันวาคมถึงมกราคม สามารถเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งช่วงนี้หัวขมิ้นจะแห้งสนิท

ไม่ควรเก็บในระยะที่เริ่มแตกหน่อ เพราะจะทำให้สารที่มีประโยชน์อย่างเคอร์คูมินในขมิ้นมีน้อย ส่วนเหง้าที่เก็บมาต้องมีอายุอย่างน้อย 9-12 เดือน และต้องไม่เก็บไว้นานเกินไป ไม่ให้ถูกแสงแดด เพราะน้ำมันหอมระเหยในขมิ้นจะลดน้อยลง

เป็นพืชล้มลุกที่จัดอยู่ในตระกูลขิง มีเหง้าอยู่ใต้ดิน มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นิยมนำไปใช้ในการประกอบอาหาร แต่งสี แต่งกลิ่นอาหาร เช่น แกงไตปลา แกงกะหรี่ เป็นต้น

เป็นพืชที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และเกลือแร่ต่าง ๆ รวมไปถึงเส้นใย คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน

ในทางสมุนไพรมีสรรพคุณเป็นยาที่รักษาอาการและโรคต่าง ๆ ได้หลายชนิด มีประวัติในการนำมาใช้ในการรักษามากกว่า 5,000 ปี

สำหรับขมิ้นชันที่จะนำมาใช้ประโยชน์นั้น การเก็บเกี่ยวไม่ควรเก็บในระยะที่ขมิ้นเริ่มแตกหน่อ เพราะจะทำให้สารที่มีประโยชน์อย่างเคอร์คูมินในขมิ้นมีน้อย ส่วนเหง้าที่เก็บมาต้องมีอายุอย่างน้อย 9-12 เดือน และต้องไม่เก็บไว้นานเกินไป และไม่ให้ถูกแสงแดด เพราะน้ำมันหอมระเหยในขมิ้นจะหมดไปเสียก่อน

ที่มา เดลินิวส์

ความคิดเห็น