พยากรณ์อากาศ ระหว่างวันที่ 6-12 เมษายน 2561

พยากรณ์อากาศ ระหว่างวันที่ 6-12 เมษายน 2561




ระหว่างวันที่ 6 เมษายน 2561 - 12 เมษายน 2561
การคาดหมายการคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 6 – 7 เม.ย. บริเวณประเทศไทยจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า ลูกเห็บตก และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 8 – 9 เม.ย. บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง ส่วนภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 10-12 เม.ย. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศร้อน ส่วนภาคใต้จะมีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง โดยบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรข้อควรระวัง   ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 6 - 7 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า ลูกเห็บตก และฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย สำหรับเกษตรกรควรระมัดระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 7 – 9 เม.ย. ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา  ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 6 – 7 เม.ย.บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ประกอบกับคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า ลูกเห็บตก และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 8 – 9 เม.ย. ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ส่วนคลื่นลมอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 10-12 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น ส่วนลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อน
ภาคเหนือในช่วงวันที่ 6-7 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-28 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 8-12 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือวันที่ 6 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 7-12 เม.ย. มีเมฆบางส่วน กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลางในช่วงวันที่ 6-7 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ และลมกระโชกแรงอุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 8-12 เม.ย. มีเมฆบางส่วน
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกในช่วงวันที่ 6-7 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ และลมกระโชกแรงอุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่น 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 8-12 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่น 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)ในช่วงวันที่ 6 และ 10-12 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 7-9 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 7-8 เม.ย.อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑลในช่วงวันที่ 6-7 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ และลมกระโชกแรงอุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 8-12 เม.ย. มีเมฆบางส่วน
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา

ความคิดเห็น