กระตุ้นกรมหม่อนไหม ทำแผนเพิ่มเกษตรกรปลูกหม่อน

ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ชิมหม่อน ชมไหม ส่งสุขปีใหม่ 2561” ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลปะอาว อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี



    ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินโครงการ “เกษตรกรได้รับ ประชาชนได้รู้ คืนความสุขสู่คนไทย จากใจกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” โดยมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด ร่วมจัดกิจกรรมเพื่อเป็นการคืนความสุขให้กับเกษตรกรและประชาชนทั่วไปในช่วงเทศกาลปีใหม่ตามนโยบายของรัฐบาลและกระตุ้นการใช้จ่ายเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลปีใหม่

    ซึ่งกรมหม่อนไหมได้จัดงาน “ชิมหม่อน ชมไหม ส่งสุขปีใหม่ 2561” ขึ้นระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2560- 2 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ
21 ศูนย์ทั่วประเทศ และจัดให้มีการเปิดตัวโครงการขึ้นในวันนี้

     โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อคืนความสุขให้กับเกษตรกรและประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ สร้างแหล่งเรียนรู้ศึกษาดูงานด้านหม่อนไหมให้ผู้ที่สนใจ และยังเป็นการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์หม่อนไหมที่มีคุณภาพ ช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดให้สินค้าหม่อนไหม

      กิจกรรมดังกล่าวนอกจากเป็นการคืนความสุขให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่แล้ว ยังเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ซึ่งในปัจจุบันพบว่ามีเกษตรกรปลูกหม่อนเลี้ยงไหมทั่วประเทศเพียง 80,000 ราย

      กระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายให้กรมหม่อนไหมจัดทำแผนเพิ่มจำนวนเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมให้แก่เกษตรกรโดยเป็นแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี มีเป้าหมายเพิ่มจำนวนเกษตรกรไม่ต่ำกว่า 5% ต่อปี หรือคิดเป็นจำนวนเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพิ่มขึ้นเป็น 850,000 รายในอีก 20 ปีข้างหน้า โดยที่ ต.ปะอาว เกษตรกรมีการรวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็งและมีสัดส่วนเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพิ่มขึ้น

      โดยมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมถึง 10% ต่อปี ซึ่งจะส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกร วิถีชีวิตและภูมิปัญญาการผลิตไหมไทยไม่ให้สูญหาย รวมถึงการเพิ่มทางเลือกให้กับเกษตรกรโดยเฉพาะการปลูกหม่อนที่เป็นพืชที่มีความแข็งแรง ต้านทานในทุกสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี

     พร้อมกันนี้คณะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้เดินทางไปยังบ้านวังอ้อ ต.หัวดอน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี เพื่อเปิดป้ายกลุ่มเกษตรอินทรีย์วิถีไทย ณ ศูนย์พุทธรรมพรหมวชิรญาณ วัดป่าใหญ่วังอ้อ พร้อมตรวจเยี่ยมกิจกรรมตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง โคก หนอง นา โมเดล

    ซึ่งชุมชนแห่งนี้ได้นำผลผลิตทางการเกษตรที่ผลิตได้ส่งจำหน่ายยังห้างสรรพสินค้าชั้นนำของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง

ขอบคุณที่มา: เดลินิวส์

ความคิดเห็น