ไรสนิมทำลายผลมะนาว ป้องกันได้

ผู้ปลูกมะนาวในวงบ่อจำนวนไม่น้อยในระยะนี้มักจะเจอกับปัญหาลูกมะนาวไม่สมบูรณ์มีลักษณะกระดำกระด่างบริเวณผิวผล เมื่อเด็ดมาผ่าพบว่าเปลือกจะหนาและมีปริมาณน้ำน้อย



อาการดังกล่าวผู้รู้บอกว่าเกิดจากการเข้าทำลายของไรสนิม ซึ่งเป็นแมลงขนาดเล็ก ตัวอ่อนสีขาวอมเหลือง หากสังเกตไม่ดีจะไม่พบตัว การเข้าทำลายมักเกิดกับผลที่อยู่ในร่มเงาและลับตา ทำให้ผิวเปลือกของผลมะนาวที่ปกติมีสีเขียวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มหนาและกร้าน

สำหรับไรนั้นนับเป็นหนึ่งในศัตรูพืช ที่ก่อความเสียหายแก่พืชโดยตรง และสามารถติดปนเปื้อนไปกับผลิตผลทางการเกษตร ทั้ง ดอก ผล หรือต้นพืช ที่ผู้ผลิตจะทำการส่งเป็นสินค้าออกไปยังต่างประเทศได้ เป็นผลให้เกิดการกีดกันทางการค้าและกระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมในที่สุด

ไรศัตรูพืชบางชนิดนอกจากจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืชโดยตรงแล้วยังเป็นพาหะนำโรค ต่าง ๆ ของพืชโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่เกิดจากไวรัส เช่น ไรสี่ขา และไรแมงมุมบางชนิด จัดอยู่ในสัตว์ประเภทเดียวกับแมงมุม มีวงจรชีวิตจากไข่ไปสู่ตัวเต็มวัยประมาณ 7-12 วัน ระยะไข่ไปเป็นตัวอ่อน ประมาณ 4-5 วัน ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยสามารถดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบ ยอด ดอก และผลอ่อนของพืชได้ ตัวเต็มวัยเพศเมีย 1 ตัว สามารถวางไข่ได้คราวละ 400-500 ฟอง จะพบระบาดทำลายพืชมากเมื่ออากาศแห้ง เช่น ต้นฤดูหนาวหรือช่วงฤดูหนาวเข้าสู่ต้นฤดูแล้งของทุกปี

ส่วนไรสนิมในพืชสกุลส้ม ทั้งในระยะตัวอ่อนและตัวเต็มวัย จะดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบ ผลและกิ่งก้านของต้นพืช ที่ใบจะพบไรดูดทำลายทั้งด้านบนใบและใต้ใบ ทำให้ใบร่วง ส่วนผลที่ถูกดูดน้ำเลี้ยงเป็นเวลานานประมาณ 2 สัปดาห์ สีของผลจะเปลี่ยนจากเขียวเป็นสีน้ำตาลคล้ายสนิม ทำให้ผลส้มสกปรกไม่สวยงาม จึงไม่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั้งภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ หากไรสนิมส้มระบาดรุนแรง อาจทำให้ต้นส้มหยุดชะงักการเจริญเติบโตได้อีกด้วย

เนื่องจากไรเป็นศัตรูพืชที่มีขนาดเล็กมาก การเพิ่มปริมาณประชากรเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกษตรกรมักจะไม่ทันสังเกตเห็น การป้องกันกำจัดจึงมักจะไม่ทันการ ทำให้พืชผลได้รับความเสียหายจากการทำลายของไรศัตรูพืชเสมอมา

การป้องกันกำจัดไรเบื้องต้นต้องหมั่นสำรวจแปลงพืชอยู่เป็นประจำทุก 2 สัปดาห์ ในฤดูฝนและฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ธันวาคม และตลอดทั้งปีในสวนที่อากาศมีความชุ่มชื้นสูงเมื่อพบการระบาดของไรต้องรีบกำจัดทันที

หนึ่งในนั้นก็คือการใช้เชื้อราบิวเวอร์เรีย ด้วยการฉีดพ่นในอัตรา 50-100 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร เติมสารจับใบ แล้วนำไปฉีดพ่นในช่วงเย็น ๆ อากาศไม่ร้อน ฉีดให้ชุ่มโชกทั้งบนใบและใต้ใบ

ในกรณียังไม่มีการระบาด ฉีดพ่นในอัตรา 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร เติมสารจับใบ โดยฉีดทุก 7 วัน ในกรณีที่เริ่มระบาด ฉีดพ่นอัตรา 100 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร เติมสารจับใบ โดยฉีดทุก 7 วัน ติดต่อกัน 2-3 ครั้ง ในกรณีระบาดรุนแรง ใช้ในอัตรา 100-200 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร เติมสารจับใบ โดยฉีดทุก 3 วัน ติดต่อกัน 2-3 ครั้ง หรือจนกว่าไรลดน้อยลง

ซึ่งการทำงานของเชื้อรานี้เมื่อแมลงสัมผัสกับเชื้อรา เชื้อจะเจริญเติบโตและดูดกินอาหารและน้ำเลี้ยงจากแมลง ทำให้แมลงป่วย และตายไปในที่สุด ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน หลังจากนั้นเชื้อราจะแทงออกจากตัวแมลง และสามารถเข้าทำลายแมลงตัวอื่นที่มาสัมผัสได้ต่อไปอย่างต่อเนื่อง และเชื้อรานี้ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมและร่างกายของมนุษย์

สำหรับผู้ที่ปลูกมะนาวในวงบ่อหากพบไรสนิมเข้าทำลายให้เด็ดแล้วนำไปเผา หรือฝังทำลาย หากเริ่มแสดงอาการไม่รุนแรงให้ฉีดพ่นด้วยกำมะถันผง ซื้อได้ตามร้านจำหน่ายวัสดุเกษตรทั่วไป ในอัตรา 60 กรัม ต่อน้ำ 1 ปี๊บ หรือ 20 ลิตร ฉีด 2 ครั้ง เว้นช่วง 5 วัน การระบาดของไรจะหมดไป และงดการฉีดพ่นก่อนเก็บผลผลิต 3 วัน

ที่มา: เดลินิวส์


ความคิดเห็น