รมต.เกษตร อาเซียนหนุนเชื่อมโยงเทคโนโลยีการเกษตร

รัฐมนตรีอาเซียน -อินเดีย ด้านเกษตรและป่าไม้ เห็นชอบดันแผนระยะกลาง 5 ปี สร้างความเข้มแข็งเกษตรกร เชื่อมโยงเทคโนโลยีการเกษตร


เมื่อวันที่ 12 ม.ค. นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน-อินเดียด้านการเกษตรและป่าไม้ ครั้งที่ 4  ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย ว่าให้ความเห็นชอบ และแสดงความพอใจต่อผลการดำเนินงานตามกรอบความร่วมมืออาเซียน-อินเดีย ปี 2554-2558 โดยเฉพาะการถ่ายทอดเทคโนโลยี รวมทั้งการวิจัยและพัฒนา การจัดระบบควบคุมคุณภาพเมล็ดพันธุ์พืชในระดับประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการส่งเสริมการเกษตรในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น จังหวัด และระดับชาติ  การอบรมเกี่ยวกับการรับรองผักและผลไม้อินทรีย์ พร้อมกันนี้ยังเห็นชอบแผนการดำเนินงานระยะกลางของความร่วมมืออาเซียน-อินเดียด้านการเกษตรและป่าไม้ที่มีเป้าหมายดำเนินการถึงปี 2563 สนับสนุนแผนการดำเนินงานระยะกลางของความร่วมมืออาเซียน-อินเดียด้านการเกษตรและป่าไม้ ซึ่งจะสิ้นสุดในปี 2563


"ที่ประชุมรมต.อาเชียน 10 ประเทศและอินเดีย ได้มอบหมายให้คณะทำงานอาเซียน-อินเดียด้านการเกษตรและป่าไม้ เร่งดำเนินกิจกรรมความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ให้มากขึ้น เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของภาคการเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมและการบริหารจัดการทรัพยากรทางการเกษตรและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน ทำให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยจะมีการรายงานความคืบหน้าผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน-อินเดียด้านการเกษตรและป่าไม้ ครั้งที่ 5 ในปี 2562 ซึ่งจัดขึ้น ณ ประเทศบรูไนดารุสซาลาม ต่อไป” นายกฤษฎา กล่าว 

รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า ในปี 2561 รัฐมนตรีอาเซียน-อินเดีย คาดหวังว่าจะได้มีการดำเนินกิจกรรมด้านการเสริมสร้างศักยภาพอาเซียน-อินเดีย ในโครงการการพัฒนารูปแบบองค์ความรู้เพื่อการจัดทำการเกษตร โดยมีโครงการสำคัญ ๆ เช่น โครงการเสริมสร้างศักยภาพสตรีอินเดีย - อาเซียนผ่านสหกรณ์ และโครงการการจัดการความมั่นคงด้านอาหารและความผันผวนของราคาสินค้าเกษตร เนื่องจากอินเดียมีขนาดจีดีพี 2.25 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 7 ของโลก และมีประชากรกว่า 1,300 ล้านคน ขณะที่อาเซียนรวม 10 ประเทศมีขนาดจีดีพี 2.71 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และมีประชากรกว่า 644 ล้านคน ดังนั้น อาเซียนและอินเดียต้องเสริมสร้างความร่วมมือที่เข้มแข็ง เพื่อเป็นกลไกทางเศรษฐกิจที่สำคัญของโลก สามารถสร้างอำนาจต่อรอง และเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่ก่อให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล นำไปสู่การพัฒนาที่สำคัญทางเศรษฐกิจและสังคม

ขอบคุณที่มา: เดลินิวส์

ความคิดเห็น